ดัมมี่ ออนไลน์ เป็นเกมไพ่อีกประเภทหนึ่งที่เว็บไซต์ UFABETของเราเปิดให้บริการ มีผู้ให้ความสนใจเข้ามาเล่นเป็นจำนวนมาก ไม่ต่างกับเกมไพ่ประเภทอื่น ๆ แต่ในความที่เป็นไพ่ ดัมมี่ จึงเป็นเกมไพ่ที่มีคนนิยมเลือกเข้ามาเสี่ยงโชค และเล่นเพื่อทำเงินกันมากที่สุดแล้ว เนื่องจากเกมไพ่นี้มีวิธีการเล่นที่ค่อนข้างยาก ท้าทาย ใช้ไหวพริบ และความแม่นยำค่อนข้างสูง ดังนั้นรายละเอียดกติกาการเล่นจึงซับซ้อน แถมยังเป็นเกมที่ไม่ได้ใช้เพียงแค่ดวงอย่างเดียว ดัมมี่ ออนไลน์ ทุกท่านที่เข้าเล่นจะต้องอาศัยไหวพริบของตัวเองในการสังเกตผู้เล่นฝ่ายตรงข้าม เพื่อที่จะนำมาคิด วิเคราะห์ เอาชนะคู่แข่งในเกมได้นั่นเอง ดังนั้นทางทีมงานของเราจึงขอแนะนำวิธีการเล่น เทคนิคต่าง ๆ ให้กับสมาชิกทุกท่าน เพื่อใช้เป็นแนวทางในการทำเงินได้ดี และง่ายมากยิ่งขึ้น
ดัมมี่ เกมไพ่ออนไลน์ยอดนิยม ที่มาแรงอันดับ 1 ของเมืองไทย เล่นง่าย ทำกำไรไว อย่ารอช้า !!

วันนี้เราจะมาพูดในเรื่องของประวัติ หรือที่มาของเกมไพ่ ดัมมี่ หรือที่เรียกอีกอย่างว่า รัมมี่ ( rummy ) เป็นเกมไพ่จับคู่ ในการเข้าเล่นต้องอาศัยการอ่านใจ และอ่านไพ่บนมือของคู่ต่อสู้ ซึ่งนักพนันที่เข้าเล่น ยิ่งเป็นนักคณิตศาสตร์หรือนักสถิติ ค่อนข้างที่จะได้เปรียบในการแข่งมาก ๆ เพราะการเล่นทุกท่านจะต้องใช้เวลามากตามจำนวนของผู้เล่น ถ้าในนักพนันโดยทั่วไป เขาจึงไม่นิยมที่จะเล่นเกมนี้เพราะเป็นเกมที่ต้องใช้เวลานาน และการเดิมพันที่ช้ากว่าเกมอื่น ๆ อย่างเช่น เกมไฮโล, เกมบาคาร่า หรือป๊อกเด้ง ที่มีรอบในการได้เสียที่ไวกว่า แต่สิ่งที่ให้ความสนุกสนานในเกมนี้ ก็คือการนับแต้ม, ทิ้งโง่, ลบมืด และนอกจากการแข่งขันในเกมปกติก็คือ การกินมืด หรือน็อกมืดนั่นเอง นอกจากจะได้คะแนนที่เยอะแล้วมันยังมีผลทางจิตวิทยาของการแข่งอีกด้วย ในปัจจุบันได้ถูกพัฒนาออกมาในรูปแบบของเกมไพ่ออนไลน์ ที่ทำให้ผู้เล่นหน้าเก่า และใหม่ทุกท่าน ได้เข้ามาร่วมสนุกกันเป็นจำนวนมาก และให้ความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้นอีกด้วย
กติกาของเกม และการแจกไพ่
เกมไพ่นี้ สามารถเล่นได้ตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป สูงสุดถึง 4 คน โดยในการแจกไพ่จะเป็นลักษณะ ดังนี้
- ถ้ามีผู้เข้าเล่น 2 คนจะทำการแจกไพ่ให้คนละ 11 ใบ ถ้ามีผู้เล่น 3 คนจะแจกให้คนละ 9 ใบ และถ้าผู้เล่นมี 4 คนจะแจกคนละ 7 ใบ ( แต่ถ้าในบางกติกาสำหรับผู้เล่น 2 คน หลังจากแจกไพ่เสร็จ จะคัดไพ่ 5 ใบจากก้นกองออก แล้วแยกไว้ เพื่อเพิ่มความยากในการนับไพ่ ทำให้เกมมีความท้าทายยิ่งขึ้น )
- หลังจากที่แจกไพ่จนครบแล้ว ในส่วนของไพ่ที่เหลือคือกองกลางที่เอาไว้เพื่อใช้จั่ว และหลังจากนั้นผู้แจกจะเปิดไพ่ใบบนสุดจากกองจั่ว และวางไว้ ไพ่ใบนั้นถือเป็นกองกลางสำหรับทิ้งไพ่ที่ผู้เล่นไม่ต้องการได้
- ผู้เล่นคนแรก เริ่มโดยการจั่วไพ่หนึ่งใบจากกองจั่ว หรือเก็บไพ่จากกองกลาง จากนั้นจึงทิ้งไพ่ลงมาหนึ่งใบโดยวางเรียงต่อจากไพ่กองกลางสำหรับผู้เล่นคนถัดมา เวลาทิ้งไพ่ลงบนกองกลางให้จัดเรียงเป็นแถวเพื่อให้สามารถเห็นไพ่แต่ละใบที่ทิ้งลงมาตามลำดับได้อย่างง่าย
- ผู้ที่เข้าเล่นจะสามารถเลือกได้ว่าต้องการจั่วไพ่จากกองกลาง หรือเก็บไพ่จากกองกลาง จากนั้นค่อยทิ้งไพ่หนึ่งใบโดยให้วางเรียงต่อจากไพ่ที่อยู่กองกลาง สำหรับผู้เล่นในคนถัดมา และวนไปจนกระทั่งผู้เล่นคนใดคนหนึ่ง สามารถจับคู่ไพ่ที่อยู่บนมือได้ทั้งหมดที่เรียกกันว่า “ น็อก ” หรือไม่มีใครที่สามารถจับคู่ได้อีกแล้ว จึงจะจบเกมนั้นทันที
- ในเป้าหมายของผู้เล่นคือ ผู้เล่นแต่ละท่านจะต้องพยายามเรียงไพ่ให้เป็นชุดอย่างน้อยสามใบ เราจะยกตัวอย่างเช่น ตอง ( 8♣ , 8♦ , 8♥ หรือ k♥ , k♦ , k♠ , k♣ ) หรือจะเป็นการเรียงของไพ่ในดอกเดียวกัน อาทิเช่น ( 4♦, 5♦ , 6♦ หรือ 10♥, J ♥ , Q♥ , K♥ ) โดยที่เกมไพ่นี้จะมีการจัดลำดับไพ่คือ 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8, 9, 10, J, Q, K, A และจะไม่มีการวนรอบ เช่น A, 2, 3
วิธีการนับแต้ม
- ผู้ที่เข้ามาเล่นแต่ละท่านจะนับแต้มของตัวเองเมื่อมีการจบเกม หรือการน็อก
- หน้าไพ่ที่เป็นตัวเลข 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8, 9 นับเป็นใบละ 5 แต้ม
- หน้าไพ่ที่เป็น 10, J, Q, K นับเป็นใบละ 10 แต้ม
- A นับใบละ 15 แต้ม
- ไพ่ที่เป็นสเปโต คือไพ่พิเศษ จะมีคะแนน 50 แต้ม
- ส่วนไพ่ใบที่ใช้น็อก มีคะแนน 50 แต้มเช่นเดียวกัน
- หากผู้เล่นท่านไหนที่ได้แต้มเฉพาะจากไพ่ที่ได้วางหงายขึ้นอยู่บนโต๊ะแล้วนั้น ไพ่ที่เหลืออยู่ในมือ ไม่ว่าจะเข้าชุดแล้ว หรือจะเป็นใบฝากก็ตาม ก็จะต้องถูกติดลบคะแนน
- ผู้เล่นท่านไหนที่สะสมคะแนนได้มากถึง 500 แต้ม ( หรือตามที่กำหนดไว้ ) ก่อน จะถือว่าเป็นผู้ชนะทันที
การเล่นจบเกม หรือการน็อก
- ในการที่จะจบเกม หรือการน็อกนั้น จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อ ผู้เล่นท่านใดท่านหนึ่งได้จั่วไพ่ หรือเก็บไพ่ออกมาจากกองกลาง แล้วจัดเข้าฝากได้ครบหมด แต่จะต้องเหลือไพ่ในมือเพียงใบเดียว ถือว่าผู้เล่นท่านนั้นน็อกทันที โดยผู้เล่นก็จะเปิดไพ่ในมือลงทั้งหมด และคว่ำไพ่ใบสุดท้ายนั้นลง
- หากไม่มีผู้เล่นท่านไหนสามารถที่จะน็อกได้เลย จนกระทั่งไพ่หมดจากกองจั่วแล้ว คือ ผู้เล่นจะต้องจั่วไพ่ใบสุดท้าย และทิ้งไพ่ใบหนึ่งลงบนกองกลาง ส่วนผู้เล่นคนถัดมาไม่สามารถเก็บไพ่จากกองกลางเพื่อน็อกได้ ถือว่าจบเกม
- ในการเล่นของผู้เล่นแต่ละท่านจะต้องนับแต้มจากชุดที่วางลงแล้ว และหักลบคะแนนจากไพ่ที่ถืออยู่ในมือ ในเกมตาต่อมาผู้เล่นที่น็อกจะได้เป็นคนเริ่มเกมก่อน
การน็อกมืด เป็นอย่างไร ?
ในความสนุกสนานของเกมนี้ คือถ้าหากผู้เล่นท่านไหนที่สามารถน็อกได้โดยที่ไม่มีการเกิดเลย คือจั่วขึ้นมาจากกองจั่วเท่านั้น หรือเก็บไพ่ออกมาจากกองกลางแล้วก็น็อกทันทีโดยที่ไม่เกิดมาก่อน ก็จะถือว่าผู้เล่นคนนั้นน็อกมืดทันที ซึ่งแต้มของผู้น็อกมืดในเกมนั้น ๆ จะได้แต้มเป็นสองเท่า แต่ในขณะเดียวกันผู้ที่ไม่ได้เกิดเลยในเกมก็จะถูกติดลบแต้มจากไพ่ในมือเป็น 2 เท่าเช่นกันนั่นเอง
เทคนิคการเล่นไพ่ง่าย ๆ ยังไงก็ไม่มีวันเสีย
- ให้จดจำไพ่ที่ผู้เล่นท่านอื่นเก็บขึ้นไป ว่ามีไพ่ไหนบ้างที่อยู่ในมือ เพื่อให้เราหลีกเลี่ยงการทิ้งไพ่ข้างเคียง ที่ทำให้ผู้เล่นฝั่งตรงข้ามสามารถเกิดได้ นี่ถือว่าเป็นสิ่งแรกที่ผู้เล่นทุกท่านควรที่จะเรียนรู้ในวิธีเล่นไพ่ให้เก่งมากขึ้น
- รู้จักสังเกตการทิ้งไพ่ของผู้เล่นฝั่งตรงข้าม ว่ามีการทิ้งไพ่ใบไหนลงมาบ้าง จะถือว่าเป็นไพ่ที่ไม่ได้รออยู่ นอกจากนี้ยังรวมทั้งฝึกการคาดเดาไพ่ของผู้เล่นท่านอื่น เพื่อหลีกเลี่ยงการทิ้งไพ่ ที่ผู้เล่นท่านอื่นกำลังรออยู่ได้นั่นเอง
- ก่อนเข้าเล่นทุกท่านจะต้องมีทักษะพื้นฐานที่จำเป็นสำหรับการเล่นไพ่ และวิธีเล่นให้เก่ง นั่นคือการสังเกตของการเกิดไพ่ฝั่งตรงข้าม ว่าท่านจะสามารถฝากไพ่ไหนในมือได้ โดยไม่ต้องเกิดเอง หรือ ไพ่ชุดไหนเป็นไพ่ที่ตันแล้ว ไม่จำเป็นต้องเก็บเอาไว้อีก สามารถทิ้งได้อย่างปลอดภัย
- ให้รอการเกิดไพ่ที่มากกว่า 1 ทาง ท่านสามารถถือไพ่กั๊กเอาไว้ได้ว่า จะเกิดแบบไพ่ตอง หรือจะเกิดแบบไพ่เรียง เพราะจะทำให้ท่านมีทางเลือกในการเกิดไพ่ได้เร็วขึ้น และได้หลายแบบด้วย
- ทดลองเล่นกับผู้เล่นท่านอื่นที่เป็นคนจริง ๆ ที่ทดลองเล่นมากกว่าการเล่นกับคอมพิวเตอร์ เนื่องจากเราจะได้เห็นรูปแบบการทิ้งไพ่ หรือรูปแบบการเล่นที่มากมายหลากหลายรูปแบบกว่า เป็นการเพิ่มทักษะให้กับตัวของท่านเองได้ดีมากขึ้น
- ผู้เล่นจะต้องจดจำ กติกาในการนับคะแนนไพ่พิเศษ และการหักแต้มจากการทิ้งไพ่ที่ห้ามในรูปแบบต่าง ๆ รวมไปทั้งทำความเข้าใจ ศัพท์ในการเล่นไพ่อย่างถ่องแท้ เพื่อที่จะเล่นเกมได้คล่องขึ้น
- มีสมาธิในการเล่น เพราะเป็นเกมที่ใช้เวลาในการเล่นในแต่ละครั้งค่อนข้างที่จะนาน อีกทั้งยังจำเป็นต้องมีการสังเกตของการจดจำในเรื่องการทิ้งไพ่ และเก็บไพ่ของผู้เล่นท่านอื่นตลอดทั้งเกมนั่นเอง ดังนั้นท่านจึงต้องมีสมาธิในการจดจ่ออยู่กับเกม เพื่อที่จะสามารถสังเกตการลงไพ่ของผู้เล่นฝั่งตรงข้ามนั่นเอง
ศัพท์ที่ทุกท่านต้องทำความรู้จัก
- การเกิด
เมื่อผู้เล่นท่านไหน เก็บไพ่จากกองกลาง และหงายไพ่ชุดนั้นลงบนโต๊ะ ถือว่าผู้เล่นท่านนั้นเกิดแล้ว ซึ่งการเกิดก็จะมี 2 รูปแบบ คือ แบบตอง และแบบเรียง
- การฝาก
เป็นการต่อไพ่อย่างน้อยหนึ่งใบ ( ใบฝาก ) จากชุดที่เกิดออกบนโต๊ะแล้ว ไม่ว่าจะเป็นชุดเกิดของผู้เล่นฝั่งตรงข้าม หรือของชุดเกิดของตัวท่านเองก็ตาม โดยในการฝากไพ่นั้น จะไม่มีผลต่อคะแนน แต่จะเป็นเพียงแค่การฝากวางเฉย ๆ เมื่อจบเกมแล้วเราก็จะนำไพ่ที่เราฝาก ไปนับคะแนนเหมือนเดิมนั่นเอง
- ใบหัว
เป็นไพ่ใบแรกสุด ที่เปิดออกมาเป็นไพ่กองกลางหลังการแจก หรือที่ผู้เล่นชอบเรียกว่าไพ่หัวนั่นเอง โดยมีค่ามากถึง 50 แต้มเลยทีเดียว หากใบหัวนั้นเป็นสเปโตก็จะมีค่าเพิ่มเป็น 100 แต้ม
- ปี้หัว
ถ้าหากไพ่ในกองกลาง มีไพ่ใบหัวเป็นไพ่ 7 ♠ ในส่วนของปี้ใบหัวนี้ก็จะมี 5♠ , 6♠, 8♠ ( เรียง ) และ 7♣ , 7♦, 7♥ ( ตอง ) และนี้ก็คือไพ่ที่สามารถนำไปรวมกันกับไพ่หัวได้ แล้วจัดชุดไพ่ที่ใช้เกิดได้นั่นคือการน็อก
เมื่อไหร่ก็ตามที่ผู้เล่นท่านใดท่านหนึ่งได้ทำการจั่วไพ่ หรือเก็บไพ่จากกองกลางแล้ว จัดเข้ามาอยู่ในชุดตอง หรือชุดไพ่เรียงได้ครบหมดแล้ว ให้เหลือไพ่ใบเดียวอยู่ในมือ และคว่ำไพ่ใบสุดท้าย ถือว่าผู้เล่นนั้นชนะการน็อกทันที
- การน็อกมืด
ถ้าหากผู้เล่นท่านไหนที่สามารถน็อกได้โดยไม่ต้องเกิดเลย คือต้องจั่วไพ่จากกองจั่วเท่านั้น หรือเก็บไพ่จากกองกลางแล้วก็น็อกทันทีโดยไม่ได้เกิดมาก่อน แบบนี้ถือว่าผู้เล่นคนนั้นน็อกมืดนั่นเอง
- การตกตึก
คือถ้าหากผู้เล่นท่านไหนที่ยังไม่ได้เกิด ( ไม่ได้มีการเก็บไพ่จากกองกลางเลย ) แล้วผู้เล่นคนอื่นน็อกขึ้นมา ถือว่าผู้เล่นคนนั้นตกตึก
- การตีไพ่โง่
ถ้าผู้เล่นทิ้งไพ่ลงแล้วคนถัดไป มาต่อไพ่จนครบแล้วน็อก จะเรียกว่าผู้ทิ้งไพ่ให้คนอื่นน็อก ว่าโง่ นั่นเอง และผู้เล่นท่านนั้นก็จะต้องเสียค่าโง่รอบวง และจำนวนเงินที่จะเสีย ก็แล้วแต่กติกาของวงนั้น ๆ ว่าจะเสียเท่าไหร่